“ดาบโก้ กองปราบ” ย้อนภารกิจเดือด ล่าหนุ่มค้ายายิงไม่เข้าเพราะ ‘อมพระมเหศวร’ ก่อนถูกยิงตายหน้าห้าง

“ดาบโก้ กองปราบ” 2

จากเหตุอุกอาจช่วงค่ำวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ชายวัย 50 ปีถูกยิงเสียชีวิตคารถเก๋งหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ได้กลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญที่ได้รับความสนใจจากทั้งวงการตำรวจและประชาชนในพื้นที่ สร้างข้อสงสัยหลายประเด็น โดยเฉพาะหลังพบว่าพระเครื่องที่ผู้ตายห้อยคอ — พระมเหศวร — ได้หายไปจากร่างผู้ตาย

ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าคนร้ายมีพฤติกรรมคล้ายหยิบของบางอย่างจากศพ ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นพระมเหศวรมูลค่าหลักแสนที่ผู้ตายห้อยติดตัวเป็นประจำ ยิ่งทำให้คดีนี้อาจมีปมฆ่าชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์เพิ่มเติมจากปมขัดแย้งส่วนตัว

ผู้ตายไม่ใช่คนธรรมดา

ชายที่ถูกยิงเสียชีวิตรายนี้มีประวัติอุกฉกรรจ์ เคยพัวพันคดียาเสพติด และยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้งในอดีต หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดคือเมื่อ 10 ปีก่อน กับภารกิจของ ด.ต.ดร.เกียรติเฉลิม รักษ์งาม หรือ “ดาบโก้ กองปราบ” ซึ่งในตอนนั้นยังดำรงตำแหน่งสิบตำรวจเอก ในสังกัดกองสืบสวนภาค 1

ดาบโก้เล่าย้อนความหลังว่า ขณะปฏิบัติภารกิจจับกุมนายสถิตย์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีไปซ่อนตัวในกระท่อมกลางไร่อ้อย จ.เพชรบูรณ์ คนร้ายได้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ และสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือกระสุนปืนที่ยิงใส่ตัวเขาไม่สามารถทะลุผิวหนังได้เลย ทั้งที่เสื้อขาดเป็นริ้ว เชื่อว่าเพราะเขาสักน้ำมัน เสริมคาถาอาคม และ “อมพระมเหศวร” ไว้ในปาก

เจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดิม

ในเหตุการณ์ครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.วิเชียรบุรี ด.ต.สมศักดิ์ พลเยี่ยม ถูกยิงเสียชีวิต หลังพยายามเข้าชาร์จตัวคนร้ายแต่ถูกยิงทะลุหน้าอก ขณะยืนห่างจากดาบโก้เพียง 2-3 เมตร ส่วนตำรวจอีกสองนายบาดเจ็บเช่นกัน

การจับกุมครั้งนั้นจบลงด้วยการระดมกำลังจาก 6 โรงพักรวมกว่า 100 นาย ปิดล้อมและเผาไร่อ้อยเพื่อบีบพื้นที่ซ่อนตัวของคนร้าย ก่อนให้ภรรยาและมารดาของคนร้ายมาเกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัวในสภาพบาดเจ็บแต่แทบไม่ได้รับอันตรายจากกระสุนเลย

ประวัติโชกโชนของคนร้าย

นายสถิตย์ หรือผู้ตาย เป็นบุคคลที่มีคดีติดตัวหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติด พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ และยังอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีฆ่าผู้อื่นในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นเคยตัดสินประหารชีวิต ก่อนจะลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ภายหลังเขาถูกจำคุกอยู่หลายปี และเพิ่งพ้นโทษเมื่อ 2-3 ปีก่อน กระทั่งมาก่อเหตุอีกครั้งและเสียชีวิตจากการถูกยิงเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

จุดเปลี่ยนในชีวิตตำรวจ

ดาบโก้เผยว่าหลังเหตุการณ์เดือดในวันนั้น ตนได้นำปืนคู่ใจไปให้อาจารย์วัดสายไหมลงยันต์และคาถาเพิ่มเติม สำหรับภารกิจต่อไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำรอยอีก

คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในแนวหน้า ที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังสะท้อนถึงความเชื่อฝังรากเกี่ยวกับพระเครื่อง คาถาอาคม ที่ยังมีอิทธิพลต่อผู้คนในบางกลุ่ม

“ดาบโก้ กองปราบ” 3

แม้ในที่สุด นายสถิตย์จะถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุอุกอาจล่าสุด แต่เหตุการณ์ทั้งหมดในอดีตยังเป็นบทเรียนสำคัญที่ตำรวจหลายคนจดจำ และบันทึกไว้ในประวัติการทำงาน โดยเฉพาะ “ดาบโก้ กองปราบ” ที่เป็นผู้หนึ่งซึ่งเคยเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงในภารกิจจริงท่ามกลางกระสุนและคาถา

ติดตามข่าวสารทางเพจ Facebook : ข่าวสั้นวันนี้เพชรบูรณ์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Scroll to Top